เคล็ดลับทาลิปสติกให้ริมฝีปากให้สวยเป๊ะติดทน
“ลิปสติก” คือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทที่ใช้กับริมฝีปากซึ่งมีความจำเป็นมากสำหรับ การแต่งหน้า เพราะลิปสติกเป็นตัวช่วยสำคัญในการเปลี่ยนลุค ถ้าหากว่าคุณเลือกลิปสติกที่ไม่เหมาะกับตนเอง แทนที่จะได้เปลี่ยนลุคให้ปังอาจจะกลายเป็นพังก็เป็นได้ ดังนั้นคุณจึงจะต้องรู้จัก วิธีเลือกลิปสติกให้เหมาะกับตัวเอง ซึ่งสามารถเริ่มได้จากการทำความรู้จักกับ ประเภทของลิปสติก เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรจะเลือกใช้ลิปสติกแบบไหนดีให้เหมาะกับคุณมากที่สุด
ประเภทของลิปสติก กับการเลือกใช้ให้เหมาะกับคุณ
ในปัจจุบันลิปสติกมีให้เลือกใช้มากมายหลายประเภท หลายเนื้อสัมผัส เนื่องจากลิปสติกได้ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการของสาวๆผู้หลงใหลสีสันแห่งเรียวปากมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและเหมาะกับสภาพผิวหน้าของแต่ละคนนั่นเอง โดย ประเภทของลิปสติก สามารถแบ่งได้ตามลักษณะของเนื้อสัมผัสได้ดังนี้
ลิปสติกเนื้อแมท
เป็นลิปสติกเนื้อแมตต์ด้วยเนื้อสัมผัสที่มีความเข้มข้นของสีมาก ลิปสติกประเภทนี้จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลิปสติกติดทน ทาแล้วไม่หลุดระหว่างวันและไม่มันวาวเหมือนกับลิปสติกประเภทอื่น ลิปสติกเนื้อแมทจึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเพราะสีชัดและมีสันที่สวยงาม รวมถึงมีการพัฒนาให้เนื้อของลิปสติกให้ไม่ตกร่องและสบายริมฝีปากมากยิ่งขึ้น ลิปสติกเนื้อแมทจึงตอบโจทย์สำหรับคนที่มีผิวมัน หรือคนที่ต้องการให้ลิปสติกติดทนโดยที่ไม่ต้องคอยเติมบ่อย ๆ นั่นเอง
ลิปสติกเนื้อครีม
เป็นลิปสติกที่มีลักษณะตรงข้ามกับลิปสติกเนื้อแมท เพราะลิปสติกเนื้อครีมเมื่อทาลงไปที่บริเวณริมฝีปากแล้วจะให้ความเป็นครีม มอบสัมผัสที่ริมฝีปากเนียนนุ่ม และมันวาวไม่ทำให้ปากแห้ง แต่ลิปสติกเนื้อครีมยังมีเม็ดสีที่สดชัดไม่แพ้ลิปสติกเนื้อแมทเลย แต่อาจจะไปติดทนนานเท่าแบบเนื้อแนท ลิปติกเนื้อครีมมีเนื้อสัมผัสที่มันและลื่น จึงไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีริมฝีปากอวบอิ่มอยู่แล้ว เพราะเมื่อทาไปแล้วอาจทำให้ริมฝีปากของคุณดูหนามากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ลิปสติกเนื้อซาติน
เป็นลิปสติกที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาเหมือนกับลิปมัน ช่วยทำให้ปากของคุณมีความมันวาวและมีสีเพียงเล็กน้อย ลิปสติกเนื้อซาตินจะเคลือบอยู่บนริมฝีปากแค่เพียงบางๆ จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าลุคธรรมชาติ (Makeup No Makeup) เพราะสีของลิปสติกเนื้อซาตินจะค่อนข้างเข้ากับสีปากของคุณและไม่เด่นมากจนเกินไป แถมทาทับอีกกี่รอบก็ไม่เป็นคราบกวนใจอีกด้วย
ลิปสติกเนื้อเมทัลลิค
เป็นลิปสติกที่หลายคนไม่ค่อยคุ้นเคยกันมากสักเท่าไหร่ เพราะเนื้อลิปสติกแบบเมทัลลิคนั้นค่อนข้างจะมีความเข้มข้นของสี และมักจะมีประกายของเนื้อมุกเมทัลลิกทำให้ริมฝีปากแวววาว แต่ไม่ได้ให้ความมันวาวขั้นสุดเหมือนกับลิปกลอส จึงทำให้เมื่อคุณทาลิปสติกเมทัลลิคลงบนริมฝีปากของคุณ ก็จะทำให้ริมฝีปากดูสวยดูอวบอิ่มแต่ไม่มันวาวนั่นเอง
ลิปจิ้มจุ่ม หรือลิปสติกสูตรลิควิด
เป็นลิปสติกที่มาแรงมากในตอนนี้ เพราะลิปจิ้มจุ่มนั้นมีทั้งแบบเนื้อแมทและเนื้อมันวาว แถมยังมีสีที่ค่อนข้างสดชัดและยังมีคุณสมบัติที่ติดทนอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ลิปจิ้มจุ่มหรือลิปเนื้อเหลวแบบลิควิด แนะนำให้ลองใช้ดู แล้วจะติดใจอย่างแน่นอน ดีไม่ดีอาจจะเปลี่ยนแปลง วิธีแต่งหน้า ของคุณได้เลยทีเดียว
ลิปทินท์
เป็นลิปสติกสูตรน้ำที่มีเนื้อบางเบา ให้ฟินิชลุคที่เป็นธรรมชาติ เวลาทาลงริมฝีปากจะได้ความรู้สึกเหมือนสัมผัสน้ำ สีลิปจะเนียนแนบสนิทไปกับเรียวปาก มีคุณสมบัติติแน่นทนนาน ทาง่ายสบายปาก ไม่หนักปาก แต่อาจจะทำให้ริมฝีปากแห้งได้
ลิปกลอส
เป็นลิปสติกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในความมันวาว ชื่นชอบริมฝีปากที่ดูอวบอิ่มดูสุขภาพดี เพราะลิปกลอสจะช่วยทั้งเพิ่มวอลุ่มริมฝีปากและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ทำให้ปากของคุณไม่แห้งแตกเป็นร่องหรือเป็นขุย เมื่อทาลิปกลอสลงไปที่ริมฝีปากแล้วจะเห็นได้ชัดว่า ริมฝีปากของคุณดูอวบอิ่มและมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น เหมาะมากสำหรับคนที่มีปากบางหรือคนที่มักจะมีปัญหาริมฝีปากแห้งเป็นประจำ
ลิปบาล์ม
เป็นลิปสติกที่หลายคนคุ้นเคยดีในชื่อ ลิปมัน ต้องขอบอกเอาไว้ก่อนเลยว่าลิปบาล์มหรือลิปมันนี้เป็นสิ่งที่สาว ๆ ควรพกติดกระเป๋าเอาไว้เลย เพราะลิปมันจะช่วยเติมความชุ่มชื่ นให้กับริมฝีปากของคุณได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ ส่วนใหญ่แล้วลิปสติกประเภทนี้จะทาแล้วไม่มีสี เว้นแต่บางยี่ห้อเท่านั้นที่จะออกสีชมพูอ่อน ๆ โดยลิปบาล์มนี้มักจะนิยมใช้ทาบริเวณริมฝีปาก ก่อนทาลิปสติกตัวอื่นหรือเวลาที่รู้สึกว่าริมฝีปากแห้ง
ลิปไลเนอร์
เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยเพิ่มสกิลการทาปากขึ้นไปอีกระดับ เพราะลิปไลเนอร์จะใช้สำหรับวาดขอบปากให้ชัด สวยคม ก่อนการลงลิปสติกอีกที เพื่อช่วยกำหนดขอบเขตการทาลิป ไม่ให้เกินเส้นขอบ ทำให้การทาลิปสติกง่ายขึ้น วิธีใช้ลิปไลเนอร์จะต้องเลือกสีของลิปไลเนอร์ให้ใกล้เคียงกับสีของลิปสติกที่เราจะทามากที่สุด เพื่อให้สีเบลนเข้ากันได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
ฟรอสตี้ลิปสติก
เป็นลิปสติกที่มีเนื้อลิปประกายมุกผสมกับกลิตเตอร์ ทำให้ริมฝีปากของคุณเป็นประกาย เนื้อสีของฟรอสตี้ลิปสติกจะเข้มข้นและให้สีที่ค่อนข้างชัด แต่ไม่มันวาวมากจนเกินไป ลิปสติกประเภทนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของสาว ๆ ที่ไม่ชอบให้ริมฝีปากแห้งแต่ยังคงความสีชัดและเป็นประกายอยู่
เทคนิคการเลือกลิปสติกให้เหมาะกับสีผิว
วิธีการเลือกสีลิปสติกให้เหมาะกับสีผิวของคุณ เริ่มต้นง่ายๆจากการรู้จักก่อนว่าสีผิวของคุณเป็นแบบไหน จากนั้นเลือกสีของลิปสติกที่เข้มกว่าสีปากของคุณประมาณ 1-2 เฉด เพื่อให้สีของลิปสติกดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องลองปาดลิปสติกลงบนท้องแขนของคุณ เพื่อเปรียบเทียบสีของลิปสติกว่าเข้ากับผิวของคุณหรือไม่ เพื่อให้เวลาที่ทาลิปสติกลงบนริมฝีปากจะได้ออกมาดูสวยและเหมาะกับคุณนั่นเอง
ลิปสติกสำหรับคนผิวขาว
ถ้าหากว่าคุณเป็นคนผิวขาว ไม่ว่าจะเป็นผิวขาวชมพูหรือผิวขาวเหลือง การเลือกลิปสติกให้เหมาะกับผิวของคุณก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะคนที่มีผิวขาวนั้นเหมาะกับลิปสติกทุกสี แค่เพียงเลือกใช้ลิปสติกให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ ๆ จะไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่มีผิวขาวก็มีสีที่ทาแล้วขึ้นสุด ๆ อย่าง สีส้มอ่อน สีชมพูอ่อนหรือสีแดงอมส้ม เพราะจะช่วยขับผิวทำให้คนที่มีผิวขาวมีสีสันบนใบหน้าชวนมองมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ลิปสติกสำหรับคนผิวสองสี
สำหรับคนที่มีผิวสองสี เป็นผิวที่ไม่ได้ขาวมากและก็ไม่ถึงกับคล้ำ หรือเรียกว่าผิวเหลือง เป็นสีผิวที่พบได้มากในสาวเอเชีย เป็นสีผิวประเภทที่ทำให้คุณสามารถเลือกเฉดสีได้หลายหลาก แถมยังแต่งหน้าขึ้นสุด ๆ แนะนำให้เลือกใช้ลิปสติกที่มีสีเข้มขึ้นมาหน่อย อย่างเช่น สีน้ำตาลอมส้ม สีส้มอิฐ สีชมพูกุหลาบ หรือสีแดงเบอร์กันดี เป็นต้น
ลิปสติกสำหรับคนผิวคล้ำ
ส่วนคนที่มีผิวคล้ำ หรือเป็นคนผิวสีแนะนำให้ทาลิปสติกที่สีเข้มไปเลย อย่างเช่น สีน้ำตาลเข้ม สีแดงก่ำ สีแดงอมม่วง เป็นต้น เพราะสีเหล่านี้จะช่วยให้คุณดูโดดเด่น หากชอบสีอื่น ๆ ให้พยายามเลือกโทนสีที่เข้มและไม่สว่าง รับรองว่าทาแล้วรอดแน่นอน
วิธีการทาลิปสติกให้เหมาะกับรูปปาก
สำหรับใครที่มีริมฝีปากบาง อยากจะหาวิธีทาลิปให้ปากอวบอิ่ม วิธีทาลิปให้ริมฝีปากของตนเองดูหนาขึ้น คุณไม่ควรเลือกใช้ลิปสติกที่มีสีที่เข้ม เพราะลิปสติกสีเข้มนั้นจะยิ่งทำให้เห็นรูปทรงของปากและทำให้ปากของคุณดูบางกว่าเดิมอีกด้วย คุณจึงควรทาลิปสติกที่สีไม่เข้มจนเกินไปและควรเลือกใช้ประเภทของลิปสติกที่มีความมันวาวทำให้ปากดูอวบอิ่ม อย่างเช่น ลิปกลอส หรือลิปจิ้มจุ่ม แต่ถ้าหากว่าคุณอยากทาสีโทนเข้ม ควรทาลิปสติกให้เกินจากขอบปากของคุณไปเล็กน้อย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการทานานสักหน่อย เนื่องจากสีโทนเข้มเป็นสีที่ทาค่อนข้างยากนั่นเอง
สำหรับคนที่มีริมฝีปากหนา ถ้าหากต้องการจะเก็บทรงของปากให้เรียวสวย ปากเป็นกระจับ ปากไม่หนามากจนเกินไป แนะนำให้เลือกลิปสติกที่มีโทนสีเข้ม แต่หากต้องการมีปากอวบอิ่มแบบสายฝอ แนะนำให้เลือกลิปสติกที่มีโทนสีอ่อนแต่เนื้อแน่น หรือเนื้อแมท แต่ถ้าหากว่าคุณอยากจะมีปากที่ดูบางลง แนะนำให้ใช้เทคนิคการทาลิปแบบออมเบร (Ombre Lips) ทาลิปสติกสีเข้มบริเวณข้างในปากออกมาถึงกึ่งกลางปาก จากนั้นทาริมฝีปากส่วนที่เหลือด้านนอกด้วยสีที่อ่อนกว่า จะได้ฟินิชลุคสีปากระเรื่อ ก็จะช่วยหลอกตาให้ปากของคุณดูบางและเป็นกระจับมากยิ่งขึ้น
วิธีการทาลิปสติกให้เหมาะกับรูปปาก
ลิปสติกที่ดีและเหมาะสำหรับสาว ๆ ในยุคโควิด 19 แบบนี้ นอกจากจะเลือกสีสันที่สวยเหมาะกับสีผิวของคุณแล้ว ยังต้องเป็นลิปสติกที่มีคุณสมบัติติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ และไม่ติดแมสหรือหน้ากากอนามัยอีกด้วย เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าใครจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอย่างลิปสติก แนะนำให้เลือกซื้อลิปสติกที่ติดทนเอาไว้ก่อน อาจจะเลือกเป็นลิปสติกเนื้อแมท หรือเนื้อซาติน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเครื่องสำอางติดแมสหรือลิปสติกติดแมสตามมาในภายหลัง รับรองว่าลิปติดทน ไม่ติดแมส คุณอยากจะแต่งลุคไหนก็ปัง สวยมั่นใจได้ตลอดทั้งวัน